Jinna ROV SS13 รูน ไอเท็ม พลังแฝง ปรับใหม่เล็กน้อย เพื่อให้มันโหดขึ้น

หนึ่งในฮีโร่ตำแหน่ง เมจ ที่ถือได้ว่า น่าสนใจมากๆ ตัวนึงใน ROV SS13 ที่มีการปรับแพทช์ใหม่ ก็คงจะหนีไม่พ้น Jinna เพราะก่อนหน้านี้ Jinna เป็นเมจที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่หลังจากที่มีการปรับแพทช์ใหม่ Jinna ROV SS13 ก็ถือว่า น่าสนใจมากๆ เพราะมันสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ทำดาเมจได้รุนแรงมากขึ้นเยอะ จากผลของไอเท็มใหม่ และการเดินเกมในช่วงต้นเกม ก็จะง่ายมากขึ้น เนื่องจากลดความกังวลเรื่องของป้อมกลางในช่วง 3 นาทีแรกไปได้เยอะเลยทีเดียวครับ ทีนี้ เรามาดูกันว่า Jinna ในแพทช์ใหม่ มันต้องปรับไอเท็ม รูน และพลังแฝง อย่างไรบ้าง

Jinna ROV SS13 ปรับไอเท็มใหม่ ให้มันเก่งมากขึ้น

สำหรับการเล่น Jinna ในเกม ROV ซีซั่น 13 นี้ ผมแนะนำให้เล่นสาย เวทแวมไพร์ 50% หรือ บางคนอาจจะเรียกย่อๆ ง่ายๆ ว่า ดูดเลือด 50% ก็ได้ ( จริงๆ ต้องใช้คำว่า เวทแวมไพร์ เพราะเป็นการฟื้นฟู HP จากการโจมตีด้วยสกิลที่ทำความเสียหายเวท ส่วนคำว่า ดูดเลือด จะเป็นการฟื้นฟู HP จากการโจมตีปกติ ที่สร้างความเสียหายกายภาพเท่านั้น แต่เพื่อความง่าย อาจจะเรียกสั้นๆ ว่า ดูดเลือด ก็ได้ ไม่ว่ากัน ขอแค่ให้เข้าใจหลักการที่ถูกต้องเอาไว้ก็พอ ) โดยในแพทช์ใหม่นี้ ผมแนะนำให้เล่นสายดูดเลือด ผสมผสานกับ เจาะเกราะเวท

หลักการและไอเดียของ ไอเท็ม รูน และพลังแฝง เซ็ตนี้ คืออะไร?

หลักการก็คือ เจาะเกราะเวทให้มากที่สุดตั้งแต่ต้นเกม เพื่อให้ศัตรูโดนดาเมจเวทจาก Jinna แรงมากที่สุด ซึ่งตรงนี้ ไม่ต้องห่วงว่า ดาเมจเวทจะไม่แรง เพราะไอเท็มที่เพิ่มเจาะเกราะเวททุกชิ้น มันเพิ่มพลังเวทมาให้คู่กันอยู่แล้ว ซึ่งนั่นแปลว่า ยิ่งเจาะเกราะเวทสูงมากเท่าไหร่ ฮีโร่ฝั่งตรงข้ามก็จะโดนดาเมจเวทเข้าไปเต็มๆ และแรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นแครี่ที่ไม่มีไอเท็มกันเวทเลยนี่ เรียกว่า โดนแบบเต็มที่ไปเลย

Jinna ROV SS13 รูน ไอเท็ม และ พลังแฝง
Jinna ROV SS13 รูน ไอเท็ม และ พลังแฝง

ทีนี้ เมื่อศัตรูโดนดาเมจเวทเข้าไปเต็มๆ และรุนแรงแล้ว อัตราการดูดเลือด หรือ เวทแวมไพร์ ยิ่งสูง มันก็จะยิ่งดูดเลือดได้มากไปด้วยเท่านั้น ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อทำให้ Jinna เวลาที่กดใช้อัลติเข้าไปกลางวงศัตรู หรือ เข้าไปแนบข้างๆ ตัวศัตรู จะทำให้ Jinna ฟื้นฟู HP ได้แบบรัวๆ และทำดาเมจเวทได้รุนแรงมากๆ แบบรอบตัวเลยทีเดียว ( การใช้สกิล 1 เพื่อฟื้นฟู HP ก็ทำได้ง่าย เรียกได้ว่า Jinna ไม่ต้องกลับบ้านเลย ถ้า HP เหลือน้อย ก็ใช้สกิล 1 กับครีปสักเวฟนึง ก็ฟื้นฟู HP มาให้เยอะแยะ พร้อมลุยต่อได้เลย

ดังนั้น พลังแฝง ที่ใช้เราจึงใช้พลังแฝงลดคูลดาวน์อัลติ เพื่อทำให้ Jinna ใช้อัลติได้บ่อยมากขึ้นตั้งแต่ต้นเกม และเน้นการเพิ่มเจาะเกราะเวท ให้ Jinna มีเจาะเกราะเวทมากที่สุดตั้งแต่ต้นเกม แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มี Sacred Protection เข้ามาช่วยป้องกัน Jinna ไม่ให้เจ็บหนักมากเกินไป ซึ่งในจังหวะที่พลังแฝงอย่าง Sacred Protection มันทำงาน ก็จะมีเวทแวมไพร์จากพลังแฝงนี้มาช่วยอีกด้วยนะครับ เรียกได้ว่า Jinna ของเราด้วยเซ็ตนี้จะดูดเลือดชนิดที่เรียกว่า ดูดกันรัวๆ ตายยากตายเย็นมากๆ เลยทีเดียว สำหรับ Reaper’s Blessing นั้น เราก็เอามาไว้เพื่อช่วยให้ Jinna รอดตายในยามคับขัน แค่นั้นเองครับ

สำหรับรูน เราจะไม่ใช่รูนเมจมาตรฐาน เพราะมันจะทำให้ Jinna เคลื่อนที่ช้ามากเกินไป แต่จะใช้รูนของเมจวิ่งเร็ว นั่นคือ ใช้รูนสีม่วงเป็น Spirit นั่นเองครับ จะทำให้ Jinna โจมตีปกติเร็วขึ้นด้วยนะครับ อย่าลืมนะว่า สกิลติดตัวที่เด่นๆ ของ Jinna ก็อยู่ที่สกิลติดตัวด้วยเช่นกันนะครับ เมื่อโจมตีปกติเร็วขึ้น การทำให้เงื่อนไขมันครบตามจำนวนของสกิลติดตัว ก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สกิลติดตัวของ JinnaSamsara – หลังจากใช้ลูกประคำโจมตีครบ 4 ครั้ง ( โจมตีปกติและใช้สกิล ) การโจมตีปกติครั้งต่อไป จะมีลูกประคำเจาะเกราะ สร้างความเสียหายเวท 300 (+100% AP)

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของไอเท็มกันบ้าง ในรูปด้านบน หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมผมถึงหยิบ The Beast มาใช้ ทั้งๆ ที่ The Beast มันเป็นไอเท็มสำหรับฮีโร่ที่โจมตีกายภาพเป็นหลัก ทำไมถึงเอามาใส่กับเมจ เหตุผลง่ายๆ ครับ ก็คือ The Beast มันจะให้ทั้ง ดูดเลือด และ เวทแวมไพร์ อย่างละ 25% กับฮีโร่ที่สวมใส่นั่นเองครับ ส่วนเรื่องของ พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นมา Jinna ก็เอาไปใช้ได้ เพราะ Jinna ต้องใช้การโจมตีปกติ ควบคู่ไปกับการโจมตีด้วยสกิลอยู่แล้วครับ ซึ่งเมื่อเรามาเล่นดูแล้ว การทำให้ Jinna ดูดเลือดได้มากถึง 50% เป็นอะไรที่ดีมากๆ และแม้ฝั่งตรงข้ามจะมีไอเท็มลดการฟื้นฟู หรือ ตัดเลือด มาแก้ทาง ก็ยังทำให้ Jinna ของเรา ดูดเลือดได้ 25% อยู่ดีครับ ( ไอเท็มตัดเลือด หรือลดการฟื้นฟู มันจะลดอัตราการฟื้นฟูลงไป 50% ) ซึ่งก็เท่ากับว่า Jinna เรายังดูดเลือดได้อยู่ดี ซึ่ง 25% ก็เท่ากับ ไอเท็ม Rhea’s Blessing ซึ่งก็ไม่ได้แย่ และทำให้ Jinna ของเรายังคงโหด และทำดาเมจลุยได้ต่อไปอยู่นะครับ

ในส่วนของรองเท้า ที่แอดมินไม่หยิบเอา รองเท้าเจาะเกราะเวทมาใช้ ก็เพราะว่า Jinna มันเป็นเมจที่ต้องเข้าไปคลุกวงใน มีโอกาสที่จะโดนสกิลโจมตีของฝั่งตรงข้าม และติดสถานะควบคุมต่างๆ ได้สูง อีกทั้งยังไม่มีสกิลสำหรับหนี ดังนั้น รองเท้าเจาะเกราะเวท จึงไม่เหมาะกับ Jinna ครับ สู้ออกเป็นรองเท้าต้านทานสถานะมา จะดีกว่าเยอะ

ซึ่งเมื่อรวมๆ แล้ว เซ็ตนี้ที่ Jinna เลเวล 15 นี่ ไม่ธรรมดานะครับ เจาะเกราะเวท เกือบๆ 300 และ เจาะเกราะเวทแบบเป็นเปอร์เซ็นต์อีก 40% รวมทั้ง เวทแวมไพร์อีก 50% ดูดเลือด (จากการโจมตีปกติ) อีก 25% จัดว่า ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สามารถฆ่าศัตรูได้อย่างรวดเร็วหมดทุกแบบ จะแท็งค์ ไฟต์เตอร์ แอสซาซิน เมจ หรือ แครี่ ฆ่าได้อย่างรวดเร็วหมด เพราะมีทั้งเจาะเกราะเวทแบบเป็นหน่วย และเจาะเกราะเวทแบบเป็นเปอร์เซ็นต์อีกด้วย

สำหรับกรณีที่ต้องออกไอเท็มตัดเลือด หรือ ลดการฟื้นฟู เพื่อแก้ทางฮีโร่ฝั่งตรงข้าม ตรงนี้แอดมินแนะนำว่า ให้ออกมาแทน Evil Secrets ได้เลยครับ แต่โดยส่วนตัว ถ้าฝั่งตรงข้ามไม่ได้มีอัตราการฟื้นฟู HP ที่น่ากลัวจริงๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้นะครับ เช่น ถ้าเจอกับ Arum และมีเพียงแค่ Arum ตัวเดียว ที่มีเรื่องของการฟื้นฟู อยู่ในทีมฝั่งตรงข้าม แบบนี้ผมจะไม่ออกไอเท็มลดการฟื้นฟู เพราะดาเมจที่เราทำได้ มันจะแรงกว่าที่ Arum มันจะฟื้นฟูได้เยอะมากๆ เรียกได้ว่า ฟื้นฟูไม่ทันแน่นอน

แต่ถ้าเจอกับ Kil’Groth อยู่ฝั่งตรงข้าม แบบนี้เราจำเป็นต้องใช้ไอเท็มลดการฟื้นฟูครับ เพราะแม้ดาเมจเวทของเราจะแรงก็จริง แต่ Kil’Groth มันก็ดูดเลือดได้แรงมากๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้น Jinna จึงเสียเปรียบแน่นอน ถ้าไม่ออกไอเท็มลดการฟื้นฟูมาสู้

สิ่งสำคัญสำหรับการเล่น Jinna ROV SS13 ตามสูตรที่ผมแนะนำนี้ ก็คือ จังหวะในการกดอัลติเข้าไปไฟต์นั่นเองครับ แม้ว่า Jinna จะมีอัลติที่คูลดาวน์ได้เร็วมากๆ ในช่วงต้นเกม สามารถกดใช้ได้บ่อยครั้ง แต่จังหวะที่สมควรจะกดเข้าไปใช้นั้น สำคัญกว่า ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด และคิดว่า Jinna เซ็ตนี้ ดูดเลือดได้ตั้ง 50% จะกลัวอะไร เปิดอัลติเข้าไปใส่ก่อนเลย ผลคือ ตายทันที ภายในไม่ถึง 3 วินาที นั่นก็เพราะว่า แม้มันจะดูดเลือดแรงก็จริง แต่ตัวมันยังคงเป็นเมจอยู่ดีครับ มีความบาง ทนรับดาเมจจากศัตรูหลายๆ ตัวพร้อมกันไม่ไหวหรอกครับ

ดังนั้น แนวทางการเล่นที่ถูกต้องของ Jinna ก็คือ รอให้เพื่อนเปิดก่อน และหาทางอ้อม หรือ Flicker เข้าไป กดอัลติใส่แนวหลังอย่าง แครี่ เมจ เป็นหลัก จะเรียกว่า ทำตัวเป็นตัวล้วงก็ไม่ผิดครับ เพราะดาเมจของ Jinna มันทำดาเมจเวทรอบตัว และแรงมากๆ อีกทั้งยังมีสกิล 2 ที่ใช้สโลว์ศัตรูได้ ดังนั้น ถ้าเข้าถึงตัวเมจ กับแครี่ ฝั่งตรงข้ามได้ จะมีโอกาสที่ Jinna จะฆ่าได้สูงมากๆ ทั้งเปิดอัลติ ใช้สกิล 2 สโลว์ และคอมโบกับสกิล 1 และสกิลติดตัว แบบนี้ เมจ หรือ แครี่ ตายอย่างรวดเร็วแน่นอนครับ อีกทั้งการทำแบบนี้ ยังทำให้ Jinna ปลอดภัยจากการโดนพวกเมจ กับแครี่ ฝั่งตรงข้าม ยืนยิงฟรีใส่จากแนวหลังอีกด้วย

ส่วนใหญ่ที่เห็นคนเล่น Jinna ทำกันก็คือ รอให้เพื่อนเปิดก่อนก็จริง แต่ดันกดใช้อัลติเข้าไปใส่แท็งค์ หรือ ฮีโร่แถวหน้า ผลก็คือ โดนพวกฮีโร่แถวหลังจาก แครี่ และเมจ ยิงฟรีจนตายอย่างรวดเร็ว ซึ่งใช่ครับ นั่นเป็นวิธีการเล่นที่ไม่ถูกต้องนั่นเอง

สำหรับ Jinna ROV SS13 นั้น เราสามารถเล่นได้สองแนวทางใหญ่ๆ ก็คือ สายเจาะเกราะเวท ( ก็คือสายที่ผมแนะนำไปแล้วนี่แหละครับ ) กับสายแท็งค์ยืนชน ซึ่งจะใช้ไอเท็มเวทชิ้นใหม่อย่าง Frostguard เข้ามาเป็นไอเท็มหลัก ไม่เจาะเกราะเวทมาก แต่เน้นที่ดาเมจเวท และ CC ที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าปะทะ โดยส่วนตัวแล้ว ผมเองชอบที่จะเล่นสายเจาะเกราะเวทมากกว่า เพราะมันทำให้ อัลติของ Jinna แรงตั้งแต่ต้นเกม ส่วนเรื่องของการทำดาเมจจากการใช้อัลติ เราก็เลือก “จังหวะการเข้าไปบวก” ให้แม่นยำ แค่นี้ตัวเราก็จะรับดาเมจน้อยลงแล้ว อีกทั้งยังมี Sacred Protection มาช่วยอีกด้วย ย่อมทำให้การเปิดอัลติเข้าไปบวก ปลอดภัยมากขึ้นอยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมถึงการดูดเลือดแบบรัวๆ ตอนที่อัลติอีก 50% ด้วยนะครับ

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้ความรู้ ROV เรื่อง เจาะเกราะเวท สำหรับเมจ ควรออกแบบไหน ในช่วงไหนของเกม
เรื่องถัดไปMarja ROV SS13 รูน ไอเท็ม พลังแฝง ปรับใหม่ให้มันเป็นตัวออฟเลน ที่น่ารำคาญที่สุดในเกม