หลังจากในบทความที่แล้ว ผมได้อธิบายเกี่ยวกับ 3 ไอเท็มใหม่ ในเกม ROV ที่จะมาใน ROV แพทช์ใหม่ มิ.ย.61 กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ เพื่อให้ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้น ผมเอาข้อมูลของ แพทช์ใหม่ ที่ในเซิฟต่างประเทศได้อัพเดตกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เซิฟไทย ที่ยังไม่อัพเดต เพื่อให้ทุกท่าน ได้มีความพร้อม รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นในเกม ROV ซึ่งแน่นอน มันจะทำให้การเล่นเกม ROV สนุกมากขึ้น และใครที่เพิ่งจะเข้ามาเล่นใหม่ อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะขาดข้อมูลที่สำคัญๆ ไป
ROV แพทช์ใหม่ มิ.ย.61 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
ต้องบอกว่า ใน ROV แพทช์ใหม่ มิ.ย.61 นี้ มีอะไรหลายๆ อย่าง เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่บางอย่าง ผมจะไม่ลงลึกในรายละเอียดนะครับ เพราะสามารถไปลองเล่นกันได้เอง แต่บางอย่าง ผมก็จะลงลึกในรายละเอียดให้ ว่าแล้ว เราก็มาดูกันเลยดีกว่าครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
ระบบการเล่น
– มีการปรับเพิ่มโหมดใหม่ นั่นคือ Death Match ที่หลายคนรอคอยกันมานาน เป็นการจับคู่ไปเล่นแบบ ทีมละ 2 คน 5 ทีม ออกมาฟาดฟันกันในแผนที่รูปดาว สำหรับรายละเอียดหรือเงื่อนไขการเล่น ก็ไม่มีอะไรยากครับ มันคือ Death Match แน่นอนว่า มันต้องเป็นการไล่ฆ่า และการแย่งกันยืนในพื้นที่เพื่อเก็บแต้ม ภายในเวลาที่กำหนดแน่นอนครับ ตายได้ครับไม่เป็นไร เพราะสุดท้าย เค้าวัดกันที่แต้มครับ ว่าทีมไหน ทำแต้มได้มากที่สุด ก็ชนะไปครับ โหมดนี้ ทำมาเพื่อเอาใจคนชอบไล่ฆ่า ไม่ชอบเล่นในโหมดปกติ ที่ต้องใช้กลยุทธ์และเล่ห์เหลี่ยม แต่อยากจะใช้สกิลเยอะๆ ไล่ฆ่าอย่างเดียว โหมด Death Match นี้แหละครับ โดนใจแน่นอน
– หน้าตาเมนู หรือ หน้าต่างแรกของเกม เปลี่ยนไป ดูสวยขึ้น
นอกนั้นก็เป็นการปรับระบบอื่นๆ อีกเล็กน้อย ซึ่งไม่มีผลกระทบอะไรกับการเล่นเกม เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นมากขึ้นเท่านั้น เป็นการปรับปรุง interface ของเกมนั่นเองครับ
การปรับสมดุลฮีโร่ (บัพ/เนิฟ)
ROV แพทช์ใหม่ มิ.ย.61 มีการปรับสมดุลฮีโร่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ผมจะสรุปแบบอ่านแล้วเข้าใจเลยแล้วกัน ไม่ต้องมีเนื้อหาอะไรมาเยอะให้ปวดหัว เอาแบบ ตัวไหนเก่งขึ้ น หรืออ่อนลงแค่นั้นพอ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ เกิดจากการที่ผมได้ทำการตรวจสอบข้อมูลที่ผมเล่นใน เซิฟยุโรป กับ เซิฟไทยนะครับ ประกอบกับข้อมูลจากในเว็บ http://rov.proximabeta.com/webplat/info/news_version3/26190/29738/33978/m19726/201805/721701.shtml (เป็นภาษาอังกฤษ) ซึ่งผมต้องเอาไว้อ่านเวลาที่เล่นในเซิฟยุโรปอยู่แล้ว ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ครับ
Krixi (บัพ)
สกิล 3 Moonfall ลดคูลดาวน์ลง 50/45/40 → 42/37/32
Veera (บัพ)
สกิลติดตัว Come Hither ปรับใหม่ หลังจากฆ่า หรือช่วยฆ่า จะลดคูลดาวน์ของทุกสกิลลง 25%
อันนี้เป็นการบัพ หรือเพิ่มความสามารถขึ้นแบบเห็นๆ นะครับ เพราะการลดคูลดาวน์ลง 25% ของทุกสกิล หลังจากฆ่าเอง หรือ ช่วยฆ่า จะเป็นอะไรที่ทำให้การเล่นเปลี่ยนไปแน่นอน จากที่เมื่อก่อนต้องพยายามออกไอเท็มเพื่อลดคูลดาวน์ แต่ต่อไปนี้ ใช้แค่ไอเท็มลดคูลดาวน์ชิ้นเดียวก็พอแล้ว จากนั้นก็ใส่ไอเท็มดาเมจเวทเข้าไปเยอะๆ ยิ่งฆ่าได้ หรือช่วยฆ่าได้เยอะ ก็ยิ่งใช้สกิลต่อเนื่องได้อีก ต่อไปนี้ เราคงจะเห็น Veera ออกมาป่วนเกมกันมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
Natalya (บัพ)
สกิล 2 Arcane Nova เพิ่มความเร็วของลูกบอลพลังจาก 10m/s → 12.5m/s ให้มันเร็วขึ้นนั่นเอง
Diao Chan (บัพ)
สกิล 1 Chilling Frost เพิ่มดาเมจขึ้นแบบเห็นๆ จาก 305/371/437/503/569/635 (+0.84 AP) → 350/420/490/560/630/700 (+0.85 AP)
สกิล 2 ใช้ได้ 2 ครั้งแบบติดๆ กัน (คูลดาวน์ 1 วินาที) ซึ่งถ้าใช้โดนศัตรูตัวเดิม 2 ครั้ง ใน 5 วินาที ศัตรูจะถูกแช่แข็งเป็นเวลา 0.75 วินาที และปรับให้ใช้มานาน้อยลง จากเดิม 80/85/90/95/100/105 →70/75/80/85/90/95 ระยะเวลาการชาร์จ 9/8.6/8.2/7.8/7.4/7 วินาที
บอกเลยว่า Diao Chan ได้รับการบัพขึ้น จนน่ากลัวมากเลยทีเดียว สามารถสร้างความปั่นป่วนได้มากขึ้น จนฝ่ายตรงข้าม อาจจะต้องคิดหนัก หากจะรวมตัวกันเข้าไปบวก เป็นอีกหนึ่งเมจ ที่น่าเล่นมากๆ ในแพทช์ใหม่ และเป็นอีกหนึ่งเมจ ที่รับมือได้ยากมากๆ ด้วยเช่นกันครับ
Liliana (เนิฟ)
สกิล 1 Shining Light ถูกปรับความแรงลงจาก 500/580/660/740/820/900 (+0.8 AP) → 500/560/620/680/740/800 (+0.7 AP)
นอกจากนี้ ระยะในการใช้สกิลยังถูกปรับลดลง จาก 9 มาเป็น 8.5 อีกด้วย
Ilumia (บัพ)
สกิล 1 ปรับความแรงของดาเมจให้แรงขึ้น จาก 280/340/400/460/520/580 (+0.55 AP) → 300/360/420/480/540/600 (+0.55 AP)
สกิล 2 ปรับการลดความเร็วเคลื่อนที่ จาก 50% → (30/34/38/42/46/50)% และเพิ่มระยะเวลาของการทำให้ติดสโลว์ จากเดิม 0.5 มาเป็น 1 วินาที
Kahlii (บัพ)
สกิล 2 Spiritual Blessing เพิ่มสกิลติดตัวเข้าไป ตอนที่ยังไม่ได้กดใช้สกิล 2 ให้เพิ่มดาเมจเวทเป็น 25/40/55/70/85/100 และเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่เป็น 2/3/4/5/6/7%
เมื่อกดใช้สกิล 2 ดาเมจเวท จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 70/110/150/190/230/270 → 50/80/110/140/170/200 และความเร็วเคลื่อนที่ เพิ่มขึ้นจากเดิม 10/12.5/15/17.5/20/22.5% → 7/9/11/13/15/17%
สกิลติดตัว ก่อนกดใช้สกิล 2 และหลังกดใช้สกิล 2 สามารถซ้อนทับกันได้ นั่นแปลว่า ดาเมจของเธอจะแรงมากขึ้น และที่สำคัญ แม้ว่า จะโดนศัตรูโจมตีจนโล่หายไป แต่ดาเมจก็ยังรุนแรงอยู่ดี ตรงนี้จะทำให้ Kahlii กลับมาได้รับความนิยมเพิ่มกว่าในปัจจุบันอย่างแน่นอนครับ และมันจะเป็นเมจตัวฟรี ที่สามารถใช้ไต่แร็งค์ได้ไกลที่สุดอย่างแน่นอนครับ
Aleister (บัพ)
สกิลติดตัว ปรับเพิ่มดาเมจความเสียหายจริง จาก 130 (+0.4 AP) → 130 (+10 ต่อเลเวล) (+0.4 AP)
สกิล 1 ปรับลดคูลดาวน์ช่วงต้นเกมลงมาจาก 14/13/12/11/10/9 → 13/12.2/11.4/10.6/9.8/9
สกิล 2 ปรับลดคูลดาวน์ จาก 10 วินาที มาเป็น 9 วินาที
Mganga (บัพ)
สกิล 1 เพิ่มดาเมจจาก 40/45/50/55/60/65 (+0.16 AP) → 60/66/72/78/84/90 (+0.16 AP)
ปรับให้สกิล 1 สามารถใช้ได้ 2 ครั้งแบบติดๆ กัน เหมือนกับ สกิล 2 ของ Diao Chan แต่มีระยะเวลาในการชาร์จ 12/11.4/10.8/10.2/9.6/9 วินาที
คูลดาวน์ของสกิล จะถูกปรับลดลงเหลือแค่ 2 วินาที
Mganga เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ ที่น่าสนใจมากๆ ในการปรับแพทช์ใหม่นี้ จะทำให้มันน่าเล่น และน่ากลัวมากขึ้น เพราะสามารถใช้สกิล 1 ได้ถึง 2 ครั้งแบบรัวๆ ทำให้ศัตรูติดสัญลักษณ์ได้เร็วมากขึ้น และมีสิทธิ์โดนสกิลติดตัว จนได้รับความเสียหายหนักขึ้นได้ง่ายๆ
Jinna (บัพ)
มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของ Jinna ให้ดูหล่อขึ้น
สกิล 2 ปรับลดคูลดาวน์จาก 12/11/10/9/8/7 → 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7
สกิล 3 ปรับลดคูลดาวน์จาก 36/32/28 → 35/30/25
ปรับเพิ่มเกราะพื้นฐานติดตัว จากเดิม 89 มาเป็น 95
ปรับเพิ่มค่าของเกราะ เวลาที่เลเวลเพิ่มขึ้น จากเดิม 17.7 เป็น 19.5
สกิล 2 Power Surge ปรับเพิ่มดาเมจจากเดิม 440/535/630/725/820/915 (+0.96 AP) → 500/590/680/770/860/930 (+1.0 AP) แรงขึ้นแบบเห็นๆ
Zill (บัพ)
สกิลติดตัว ปรับให้การโจมตีปกติของ Zill สร้างความเสียหายเวทเป็น 65 (+10 ต่อเลเวล) เมื่อโจมตีใส่มอนสเตอร์ป่า ซึ่งตรงนี้จะช่วยทำให้ Zill ฟาร์มป่าได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอนครับ
Azzen’Ka (บัพ)
สกิล 2 Dust Devil เมื่อกดใช้แล้ว ไปโดนศัตรูตัวเดิมซ้ำกัน 2 ครั้ง ดาเมจจะปรับเพิ่มขึ้น จากเดิม 60% → 80% และปรับให้ใช้มานาน้อยลง 70/80/90/100/110/120 → 70/75/80/85/90/95
Taara (บัพ)
สกิลติดตัว ปรับเพิ่มให้ฟื้นฟูเลือด 3% ของพลังชีวิตที่เสียไป จากการใช้สกิล 1 และ สกิล 2 พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อ Taara ใช้สกิล 1 หรือ สกิล 2 โจมตีใส่ศัตรู จะเป็นการดูดเลือดไปด้วยในตัวนั่นเอง ซึ่งแบบนี้ จะทำให้ Taara กลับมาน่ากลัว และอึดมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
Wisp (บัพ)
สกิลติดตัว Ignite ยกเลิกการลดความเร็วเคลื่อนที่ของศัตรู 25% เป็นเวลา 1.5 วินาที แล้วเปลี่ยนมาเป็น
เพิ่มระยะการระเบิดจาก 100 → 110
เพิ่มระยะเวลาระเบิดให้นานขึ้นจาก 5 → 10 sec
สกิล 2 Barrel Bomb
เพิ่มระยะการโจมตี หรือถังที่กลิ้งออกไปจากเดิม 100 เป็น 130
เพิ่มรัศมีการระเบิดให้กว้างขึ้น จากเดิม 200 เป็น 240 และเพิ่มให้เมื่อระเบิดแล้ว ทำดาเมจใส่ป้อมได้ ถึง 60% ของพลังดาเมจจากสกิล
พูดง่ายๆ ก็คือว่า สกิล 2 ของ Wisp สามารถใช้โจมตีป้อมได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งตรงนี้จะทำให้ Wisp สามารถเล่นได้ง่ายมากขึ้นแน่นอนครับ
Valhein (บัพ)
สกิลติดตัว เมื่อสกิลติดตัวทำงาน คือ การโจมตีพิเศษออกไป จะช่วยเด้งเลือดให้ Valhein ด้วย (5 + 0.15 AD + 0.08 AP) HP
สกิล 1 เพิ่มดาเมจเวท จากเดิม 190/215/240/265/290/315 (+ 0.91 AD) (+ 0.8 AP) → 225/250/275/300/325/350 (+1.0 AD) (+0.8 AP) และปรับลดคูลดาวน์ลง 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 → 9/8.6/8.2/7.8/7.4/7
อันนี้คงไม่ต้องพูดกันมาก เพราะ Valhein ก็ได้รับความนิยมกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว ก็คงจะเห็นคนหยิบมาลงแร็งค์เยอะเหมือนเดิมแน่นอน
Astrid (บัพ)
สกิลติดตัว ปรับเพิ่มโล่ ให้หนาขึ้น จาก (150 + 1.5 AD) → (150 + 1.65 AD)
สกิล 1 และ สกิล 2 ปรับลดการทำให้เหมือนติดสตั้น ตอนที่ใช้สกิลลงไป 0.1 วินาที ทำให้เวลาใช้สกิลแล้ว จะไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
Superman (เนิฟ)
สกิล 1 ปรับลดความแรงลงไปแบบเห็นได้ชัดจาก 250/500/750/1000/1250/1500 (+1.5 AD) → 215/430/645/860/1075/1290 (+1.27 AD) และปรับลดผลของการสโลว์ หรือลดความเร็วเคลื่อนที่ของศัตรูลง จาก 50% → 30%
Max (เนิฟ)
สกิล 3 ปรับลดระยะเวลาการสตั้นลง จาก 1.5 มาเป็น 1 วินาที
Butterfly (เนิฟ)
สกิล 3 ปรับลดดาเมจลงมา จาก 525/775/1025 (+1.35 AD) → 500/725/950 (+1.35 AD)
Kil’Groth (บัพ)
สกิล 2 ปรับเพิ่มดาเมจเวทให้แรงขึ้น ใช้ได้ตลอดเวลา แต่ถ้ากดใช้สกิล 2 จะเป็นการยกเลิกทันที นั่นแปลว่า ดาเมจเวทจากการโจมตีปกติครั้งที่ 3 จะเพิ่มขึ้นจาก 60/95/130/165/200/235 (+0.3 additional AD) → 60/100/140/180/220/260 (+0.3 additional AD)
แต่ถ้ากดใช้สกิล 2ดาเมจเวท จะลดลงเหลือแค่ 50/80/110/140/170/200 (+0.25 additional AD)
การปรับแบบนี้ ก็เหมือนกับการปรับสกิล 2 ของ Kahlii นั่นแหละครับ เป็นการปรับให้ Kil’Groth สามารถทำดาเมจได้รุนแรง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสกิล 2 แต่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำดาเมจได้รุนแรงตลอดทั้งเกม ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ผู้เล่นก็ต้องปรับตัวกันพอสมควร
Skud (บัพ)
สกิล 1 เพิ่มระยะการโจมตี จาก 450 เป็น 550
สกิล 3 เพิ่มระยะเวลาการสตั้น จาก 1 เป็น 1.5 วินาที
Kriknak (บัพโคตรๆ)
สกิลติดตัว การโจมตีปกติครั้งถัดไป จะแรงขึ้น จาก 0.43 AD → 100 (+0.8 additional AD)
สกิล 1 ปรับเพิ่มดาเมจกายภาพขึ้นมาสุดๆ จาก 250/280/310/340/370/400 (+1.0 AD) → 410/465/520/575/630/685 (+1.35 additional AD)
ส่วนดาเมจเวท ถ้าศัตรูติดสัญลักษณ์ จะปรับเป็น 10% of Max HP → 10 (+0.01 additional AD)% of Max HP
สกิล 2 ปรับดาเมจกายภาพ ให้เพิ่มขึ้นแบบสุดๆ จาก 180/220/260/300/340/380 (+1.0 AD) → 390/445/500/555/610/665 (+1.25 additional AD) ส่วนการฟื้นฟูพลังชีวิต หรือ HP Regen จะปรับเพิ่มขึ้นจาก 150/200/250/300/350/400 (+0.2 AD) → 190/230/270/310/350/390 (+0.6 additional AD)
สกิล 3 ปรับเพิ่มขึ้นแบบสุดๆ เช่นกัน จาก 350/500/650 (+1.5 AD) → 690/920/1150 (+2.4 additional AD)
นับว่า Kriknak เป็นฮีโร่ตัวเดียว ที่ได้รับการปรับสมดุลมากที่สุดในแพทช์นี้เลยนะครับ เอาเป็นว่า เจ้าด้วงตัวนี้ จะกลายเป็น ฮีโร่ที่โหดที่สุดในแพทช์นี้เลยก็ว่าได้ และเราคงจะเห็นเจ้าด้วงตัวนี้ ออกมาอาละวาดกันมากมายแน่นอนครับ แต่ต้องเข้าใจด้วยนะครับ ว่ามันมีเงื่อนไขของมัน
กล่าวคือ จากเดิม มันจะใช้ตัวคูณเป็นดาเมจของตัวเอง (Base Damage) จากค่า Stat แต่ตอนนี้ ปรับมาเป็น Additional Attack Damage (AD) ซึ่งมันหมายถึง ดาเมจที่มาจากไอเท็มที่สวมใส่นั่นเองครับ นั่นแปลว่า ถ้า Kriknak ไม่มีของแรงๆ ใส่ มันก็จะไม่โหดนะครับ และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมันต้องใส่แต่ของที่ทำดาเมจ มันก็จะต้องปรับลดการใส่ไอเท็มป้องกันไปด้วยนะครับ จึงทำให้มันตัวบางมากๆ การเล่นจึงต้องพลิ้วมากขึ้นกว่าเดิม
Slimz (บัพ)
ปรับเพิ่มความเร็วของการโจมตีพื้นฐานขึ้น จาก 2 เป็น 3%
Alice (บัพ)
ปรับหน้าตาของสกินใหม่หมด ให้สวยน่ารักขึ้น และเอฟเฟคของสกิลเปลี่ยนไปให้หวานแหววขึ้น
สกิล 1 ปรับลดคูลดาวน์ลง จาก 10/9.2/8.4/7.6/6.8/6 → 9/8.4/7.8/7.2/6.6/6
สกิล 2 ปรับลดคูลดาวน์ลง จาก 14.5/13.3/12.1/10.9/9.7/8.5 → 14/12.8/11.6/10.4/9.2/8
สกิล 3 ปรับระยะเวลาการร่ายของสกิล ที่จะทำให้เกิดขึ้นจาก 0.3 เป็น 0.5 วินาที
TeeMee (เนิฟ)
สกิล 1 ลดความเร็วลง ขณะที่ใช้สกิล จาก 8% → 6%
สกิล 3 เพิ่มคูลดาวน์ให้นานขึ้น 70/60/50 → 70/65/60
Lindis (บัพ)
สกิล 3 เพิ่มระยะการโจมตีขึ้น จาก 7.5 เป็น 8
เฮ้อ.. เหนื่อย กว่าจะจบ ต้องบอกว่า ใน ROV แพทช์ใหม่ มิ.ย.61 นี้ มีการปรับสมดุลตัวละครเยอะจริงๆ ครับ โดยเฉพาเมจ ซึ่งส่วนใหญ่ จะได้รับการบัพความสามารถเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถสู้กับเมจตัวใหม่ๆ ที่เพิ่งจะเข้าเซิฟมาได้นั่นเองครับ ทีนี้ใครที่มีเมจตัวเก่าๆ อยู่ ก็ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ หยิบมาเล่นเพื่อสู้กับเมจตัวใหม่ๆ ได้เลยครับ เพราะมันได้รับบัพความสามารถขึ้นมา และบางตัว ได้รับบัพจนน่ากลัวขึ้นมากเลยทีเดียว เช่น Mganga และ Diao Chan พวกนี้ อันตรายมากๆ ทีเดียวนะครับ รับมือได้ยากแบบสุดๆ เลย
อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ
