หลักการจัดทีมลงแร็งค์ ROV อัตราส่วนจำนวนฮีโร่ตีใกล้ กับตีไกล ควรเป็นเท่าไหร่ดี

อันที่จริงแล้ว เรื่องของการดราฟตัว หรือ การจัดทีมลงแร็งค์นั้น ถือได้ว่า มีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนี้ ฮีโร่ในเกม ROV มันมีจำนวนเยอะมากๆ ทำให้การดราฟตัวนั้น ค่อนข้างกำหนดให้ตายตัว เป็นสูตรสำเร็จได้ยากมากๆ เนื่องจากมันต้องดูสถานการณ์ และการเลือกตัวของฝั่งตรงข้ามเป็นหลักก่อน จากนั้น ค่อยมาดูการดราฟตัวของเพื่อนร่วมทีมเรา ซึ่งถ้าให้อธิบายจริงๆ คงจะยาวมากๆ เลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ผมจะแนะนำ หลักการจัดทีมลงแร็งค์ ROV แบบที่เป็นหลักการสากล และสามารถนำมากำหนดเป็นไกด์คร่าวๆ เวลาดราฟตัวได้ง่ายๆ ว่าควรเลือกฮีโร่แบบไหนมาเล่นดี ถึงจะทำให้ทีมเกิดความสมดุล เวลาทีมไฟต์

หลักการจัดทีมลงแร็งค์ ROV ฮีโร่ตีใกล้/ฮีโร่ตีไกล

ปัญหาใหญ่ของการเลือกตัว หรือการดราฟตัว ที่สำคัญมากๆ ก็คือ เลือกตัวมาแล้ว ดาเมจไม่พอ คำว่า ดาเมจไม่พอ คืออะไร? มันก็คือ ดาเมจเวลาที่ ทีมไฟต์ มันไม่เพียงพอนั่นเองครับ คือ ฝ่ายเรา รวมทีมกันแล้ว อาจจะ 4 – 5 คน แล้วโจมตีใส่ศัตรูไปแล้ว ฆ่าศัตรูไม่ได้ เพราะดาเมจมันพอ เนื่องจาก ฝ่ายเรา อาจจะเลือกฮีโร่ประเภทตีใกล้มามากเกินไป ฮีโร่ตีไกลน้อยเกินไป หรือเรียกว่า มันไม่สมส่วนนั่นเองครับ หรือ บางเกม อาจจะมีฮีโร่ตีใกล้ น้อยเกินไป มีแต่ฮีโร่ตีไกลในทีม ผลคือ ดาเมจเหลือเฟือ แต่ขาดความแข็งแกร่งของทีมไป ทำให้เสียเปรียบ เวลาโดนศัตรูสโนว์บอลใส่อีก

พูดง่ายๆ คือ จำนวนอัตราส่วน ระหว่าง ฮีโร่ตีใกล้ กับฮีโร่ตีไกล ในทีมนั้น มีผลอย่างมาก ในการเล่น และเป็นตัวกำหนดด้วยว่า จะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ ตั้งแต่ตอนเลือกตัวเลยทีเดียว

ฮีโร่ตีใกล้ กับ ฮีโร่ตีไกล มันคืออะไร?

ฮีโร่ตีใกล้ ก็คือ ฮีโร่ที่มีระยะการโจมตี แบบระยะประชิด ได้แก่ พวกตำแหน่ง ซัพพอร์ต, ไฟต์เตอร์, แท็งค์ และเมจบางตัว ฮีโร่พวกนี้ ส่วนใหญ่ จะมีความแข็งแกร่ง หรือไม่ก็ความแรงของดาเมจ เป็นจุดเด่น แต่จะเสียเปรียบในเรื่องของระยะการโจมตี ต้องเข้าถึงตัวของศัตรูให้ได้ ถึงจะทำดาเมจได้ดี

ฮีโร่ตีไกล ก็คือ ฮีโร่ที่มีระยะการโจมตีที่ไกล และจำเป็นต้องอยู่ไกลๆ จากศัตรู ถึงจะปลอดภัย และมักจะมีพลังชีวิตน้อย หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า ตัวบาง นั่นแหละครับ ฮีโร่ตีไกลพวกนี้ ได้แก่ แครี่ และเมจ จะมีจุดเด่นในเรื่องของ ดาเมจที่รุนแรง เรียกได้ว่า มักจะเป็นตัวทำดาเมจหลักของทีม จากแนวหลัง

หลักการจัดทีมลงแร็งค์ ROV ที่สำคัญก็คือ เราต้องเลือก อัตราส่วน ระหว่าง ฮีโร่ตีไกล และฮีโร่ตีใกล้ ในทีม ให้มันสมดุลด้วย จริงอยู่ว่า อันดับแรก เราต้องพิจารณาก่อนว่า ใครจะไปเล่นตำแหน่งไหน เช่น ฟาร์มป่า เลนกลาง เลนมังกร ออฟเลน และโรมมิ่ง จากนั้น เวลาเลือก เราก็ต้องมาพิจารณาในเรื่องที่ผมได้บอกไปแล้ว คือ ดูด้วยว่า ฮีโร่ของเรา เป็นตัวตีใกล้ หรือ ตัวตีไกล

จำนวนฮีโร่ตีใกล้ ควรจะต้องมีได้มากที่สุด ไม่เกิน 3 ตัว เต็มที่เลย ให้ได้แค่ 3 ตัว เพราะถ้ามีตัวตีใกล้มากกว่านั้น ทีมจะมีความเสี่ยง เรื่องการตีป้อม และการขึ้นบ้าน เพราะขาดดาเมจจากระยะไกล ช่วยยิงสนับสนุนนั่นเอง อีกทั้ง เวลาทีมไฟต์ จะลำบากมาก เพราะมีดาเมจยิงสนับสนุนจากแนวหลัง ไม่เพียงพอเช่นกัน

ทีมฝั่งตรงข้าม เลือกตัวมาดี แต่ตัวตีไกล ขาดดาเมจ
ทีมฝั่งตรงข้าม เลือกตัวมาดี แต่ตัวตีไกล ขาดดาเมจ

จากภาพด้านลน จะเห็นได้ชัดว่า ทีมฝั่งตรงข้าม หยิบฮีโร่ตีใกล้มา 3 ตัว แต่ตัวทำดาเมจที่เป็นฮีโร่ตีไกลนั้น มี 2 ตัว ซึ่งขาดเรื่องดาเมจ Sephera อาจจะยิงแรง ถ้ามีของ แต่ DPS ต่ำ ส่วน Valhein เน้น DPS แต่ไม่ค่อยแรง ที่สำคัญ ทั้งสองตัวนี้ เน้นสถานะ CC เป็นหลัก จึงพูดได้ว่า ดาเมจจะขาดไปแน่นอน และไปเทอยู่ที่ตัวป่าอย่าง Zanis เพียงตัวเดียว ทำให้ทีมเสียสมดุล และตีป้อมยาก ทีมไฟต์ก็จะลำบาก แม้จะใช้แท็งค์จับศัตรูได้ แต่ขาดดาเมจแน่นอน

จำนวนฮีโร่ตีไกล ควรมีในทีม อย่างน้อย 2 ตัว แต่ไม่ควรเกิน 3 ตัว เต็มที่ให้ได้แค่ 3 ตัวจริงๆ เพราะฮีโร่ตีไกลส่วนใหญ่ จะมีจุดอ่อนเรื่องความบางของตัว การมีฮีโร่ตีไกลในทีมมากเกินไป จะทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมของทีม น้อยลง และจะเสียเปรียบพวกทีมที่มีตัวล้วง ซึ่งสามารถมาล้วงพวกฮีโร่ตีไกลพวกนี้ได้ง่ายมากๆ

อัตราส่วนระหว่าง ฮีโร่ตีใกล้ กับฮีโร่ตีไกล มันมีผลยังไง อธิบายง่ายๆ มันมีผลในเรื่องการโซนพื้นที่ครับ ทีมที่มีฮีโร่ตีใกล้เยอะๆ หรือมีตัวหนาๆ เยอะ จะสามารถโซนพื้นที่ให้เพื่อนได้ดีมากๆ ถ้าโซนกันเป็น จะโซนได้ดี จนตัวล้วง ไม่สามารถเข้าถึงแนวหลังได้เลย มีผลมากๆ เวลาทีมไฟต์ หรือ เวลาจะเอาจุด Objective สำคัญๆ เช่น มังกร Abyssal Dragon

ทีมฝั่งตรงข้าม หยิบแต่ตัวตีไกลมาถึง 3 ตัว ทำให้เสียเปรียบทันที
ทีมฝั่งตรงข้าม หยิบแต่ตัวตีไกลมาถึง 3 ตัว ทำให้เสียเปรียบทันที

จากภาพด้านบน จะเห็นได้เลยว่า ทีมฝั่งตรงข้าม เลือกฮีโร่ตีไกลมาถึง 3 ตัว แน่นอนว่า ได้ความแรงของดาเมจแน่ๆ แต่จะขาดเรื่องความแข็งแกร่งไปเยอะ ส่วนตัวตีใกล้ ก็ดันเป็นแอสซาซิน ซึ่งเด่นในเรื่องการทำ Burst Damage แต่ปะทะตรงๆ นานๆ กับศัตรูไม่ได้ เมื่อไม่มีตัวค้ำ ตัวโซนให้แบบนี้ ตัวตีไกล แม้จะมี 3 ตัว ก็ไร้ความหมาย ต้องเล่นแบบตั้งรับ และโดนบีบอย่างเดียว จนต้องแพ้ในที่สุดแน่นอน

ทีมที่มี ฮีโร่ตีใกล้น้อยๆ บางทีมมีแค่ตัวเดียว จะเสียเปรียบมากๆ ในเรื่องการโซน จะทำได้แค่ หลอกล่อเท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปปะทะได้ เนื่องจาก เป็นฮีโร่ตีใกล้เพียงคนเดียว ไม่สามารถยืนรับดาเมจจากฝั่งตรงข้ามคนเดียวได้ รูปแบบการเล่น ส่วนใหญ่จึงมักจะกลายเป็นฝ่ายที่ตั้งรับเสมอ เพราะไม่มีตัวค้ำ ตัวชนให้ ก็ต้องใช้การตั้งรับในป้อมเป็นหลักนั่นเอง การจะเอาจุด Objective ก็จะทำได้ยากมากขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ ฮีโร่ตีไกล หรือ พวกแครี่ กับเมจ จะต้องเป็นตัวทำดาเมจตัวหลักของทีม ถึงจะดีที่สุด เพราะถ้าฮีโร่ตีไกล ดันกลายเป็นตัวทำจังหวะ หรือมีสกิลไม่แรง เน้นสถานะ CC อย่างเดียว เวลาเข้าทีมไฟต์ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ดาเมจไม่พอ ทำให้ฆ่าศัตรูไม่ได้ สุดท้าย ก็จะแพ้ทีมไฟต์ไปอย่างง่ายดาย ดังนั้น เลือกฮีโร่ตีไกลแล้ว ควรจะต้องเลือกตัวที่มันทำดาเมจเติมไฟต์ให้แรงๆ และเร็วๆ เพียงพอที่จะฆ่าศัตรูได้ด้วย ถึงจะดีที่สุด จึงเป็นที่มา ที่ว่า ทำไม Tel’Annas ถึงติด META เพราะดาเมจของมัน แรงมากๆ ตั้งแต่ต้นเกม ช่วยทีมไฟต์ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

ถ้าถามว่า นี่คือ หลักการจัดทีมลงแร็งค์ ROV อย่างเดียว ที่เราควรใส่ใจหรือไม่ ผมต้องตอบเลยว่า ไม่ครับ นี่เป็นเพียงแค่หลักการหนึ่ง ในหลายๆ หลักการ ที่ใช้ประกอบในการดราฟตัว โดยเฉพาะในการ Solo Rank นะครับ ( ก่อนหน้านี้ ผมก็แนะนำไปแล้ว เกี่ยวกับ ฮีโร่ต้นเกม และ ฮีโร่เลทเกม ซึ่งก็ต้องเอามาคำนวน ในการดราฟตัวเช่นเดียวกัน ) ซึ่งผมก็จะทยอยเอามาลงให้ทุกคนได้ศึกษาเรื่อยๆ ครับ ค่อยเพิ่มเติมไปครับ ถ้าอัดหนักทีเดียว เดี๋ยวจะมึนครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้คู่หู Ryoma กับ Riktor ROV ดาเมจแรงเหลือเฟือ ฆ่าศัตรูในคอมโบเดียว สูตรไต่แร็งค์
เรื่องถัดไปหลักการเล่น Taara ROV ที่ถูกต้อง ควรเล่นแบบไหน ถึงจะดีที่สุด