หลักการดูดาเมจ และความแข็งแกร่ง ของทีมในเกม ROV ว่าเพียงพอหรือไม่

หนึ่งในเทคนิคสำคัญ ที่ผู้เล่นทุกคน ในเกม ROV ควรศึกษา และทำความเข้าใจเอาไว้ก็คือ หลักการดูดาเมจ และความแข็งแกร่ง ของทีมนั่นเองครับ เป็นหลักที่เราเอาไว้ใช้ประเมินทีมของฝ่ายเรา ว่า มีดาเมจเพียงพอหรือไม่ และมีความแข็งแกร่ง มากพอที่จะยืนบวก หรือ ปะทะกับฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะไม่มองกันอย่างลึกซึ้งเพียงพอ ทำให้เมื่อจัดทีมออกมาแล้ว มีปัญหา ขาดความแข็งแกร่งไปบ้าง แต่มีดาเมจรุนแรง หรือ มีความแข็งแกร่งสูง แต่ขาดดาเมจ ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในบทความนี้ ผมจะมาอธิบายให้ทุกท่านเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ ดาเมจ และความแข็งแกร่ง ของทีมกันครับ ว่ามันต้องคำนวณ หรือดูอย่างไร

หลักการดูดาเมจ และความแข็งแกร่ง ของการจัดทีม ในเกม ROV

การแพ้ชนะในเกม ROV จะมีปัจจัย 2 อย่างที่สำคัญคือ ทีมมีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือไม่ และทีมมีดาเมจรุนแรงพอหรือไม่ ซึ่งความแข็งแกร่งที่ว่าก็คือ ความแข็งแกร่งโดนรวมของทีม ซึ่งส่วนใหญ่ ก็ต้องหมายถึง การมีแท็งค์ ให้เพียงพอที่จะยืนค้ำ หรือ ชนให้กับทีมได้ ส่วนดาเมจ ก็หมายถึง การทำดาเมจของทีม เพียงพอหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ ตัวทำดาเมจหลักๆ ก็จะเป็นตัวฟาร์มป่า, แครี่ และ เมจ ซึ่งถ้าเลือกเอาตัวที่ดาเมจไม่จัดจ้านมา ก็จะมีปัญหา ทำให้ดาเมจโดยรวมของทีม ไม่เพียงพอที่จะฆ่าศัตรูได้นั่นเอง

ทั้งความแข็งแกร่ง และ ดาเมจของทีม มันต้องสมดุลกัน ถ้ามีอันไหนมากเกินไป ก็จะทำให้อีกด้านหนึ่งต่ำลง เช่น ถ้าแข็งแกร่งมากไป แต่ดาเมจไม่พอ ก็แพ้อยู่ดี หรือ ถ้าดาเมจรุนแรงมากๆ แต่ขาดความแข็งแกร่ง ก็แพ้อยู่ดี เพราะไม่มีคนยืนค้ำให้นานพอจะทำดาเมจนั่นเองครับ

นี่คือตัวอย่าง ของทีม ที่ผมจัดเอาไว้ให้ดูคร่าวๆ เป็นไกด์นะครับ เพราะจริงๆ แล้ว อาจจะจัดได้เยอะกว่านี้อีกมากมาย หลายร้อยรูปแบบมากๆ ขึ้นอยู่กับความถนัดในการหยิบฮีโร่มาเล่นของผู้เล่นแต่ละคน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากให้ดูก็คือ โครงสร้างการจัดทีม ว่าจัดแบบไหน และมีดาเมจ กับความแข็งแกร่ง สมดุลหรือไม่ครับ

การจัดทีมแบบที่ 1 เน้นความแข็งแกร่ง และดาเมจไปพร้อมๆ กัน

ตัวอย่างทีม 1 เน้นความแข็งแกร่ง และดาเมจ เท่าๆ กัน
ตัวอย่างทีม 1 เน้นความแข็งแกร่ง และดาเมจ เท่าๆ กัน

การจัดทีมแบบนี้ ถือเป็นการจัดทีม แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ เน้นความแข็งแกร่งของ แท็งค์ 3 ตัวด้านหน้า ส่วนดาเมจ ฝากไว้ที่ เมจ และแครี่ฟาร์มป่า ซึ่งจะใช้ Lindis, Moren, Violet, Wisp ได้หมดครับ โดยการจัดทีมแบบนี้ ข้อดีก็คือ มีความแข็งแกร่งของทีม สูงมากๆ ตั้งแต่เริ่มเกม ส่วนดาเมจ ก็จะค่อยเพิ่มขึ้นมา ตามเลเวล และไอเท็มของ แครี่ กับเมจ

การจัดทีมแบบที่ 2 เน้นดาเมจจากระยะไกลมากกว่า ความแข็งแกร่ง ในการยืนบวกกัน

ตัวอย่างทีม 2 เน้นดาเมจรุนแรงจากระยะไกล มากกว่าความแข็งแกร่ง
ตัวอย่างทีม 2 เน้นดาเมจรุนแรงจากระยะไกล มากกว่าความแข็งแกร่ง

การจัดทีมแบบนี้ เป็นการเน้นการทำดาเมจจากระยะไกลเป็นหลัก เน้นความแรงของพลังโจมตีจากระยะไกลจริงๆ โดยใช้ Grakk เป็นตัวเดินเกม เพราะ Grakk แค่เดินไปไหน ศัตรูก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้แล้ว เมื่อศัตรูไม่กล้าเข้าใกล้ แครี่ กับ เมจ ที่มากับ Grakk ก็เล่นสบายครับ โจมตีจากระยะไกลอย่างเดียว ซึ่งบอกเลยว่า ดาเมจที่ แครี่ กับเมจ โจมตีจากระยะไกลมานั้น หนักหน่วงมากๆ ส่วน Lumburr ทำหน้าที่คุ้มครอง เมจ กับแครี่อย่างเดียว สำหรับ Ryoma ก็ช่วยเติมดาเมจ และช่วยดันเลนด้านข้างด้วย

สำหรับการจัดทีมแบบนี้ จะดันป้อม หรือ ไดร์ฟป้อมสบายมาก อย่างที่บอกไปแล้วว่า Grakk กับ Preyta จะเป็นตัวหลักในการไดร์ฟป้อม เพราะสามารถเล่นงานศัตรูได้จนถึงด้านหลังของป้อม ดังนั้น ถ้าศัตรูเห็นว่า มี 2 ตัวนี้มา จะรีบถอยหนี จนแทบจะออกไปจากป้อมเลยทีเดียว ส่วน Violet ก็ยิงจากนอกป้อมได้ ทำให้การดันป้อม หรือ การตั้งรับอยู่ในป้อมนั้น มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

การจัดทีมแบบที่ 3 เน้นความแข็งแกร่ง และดาเมจจากระยะไกล พร้อมกับ CC ที่หนักหน่วง

ตัวอย่างทีม 3 เน้นความแข็งแกร่ง ดาเมจ และ CC ไปพร้อมๆ กัน
ตัวอย่างทีม 3 เน้นความแข็งแกร่ง ดาเมจ และ CC ไปพร้อมๆ กัน

การจัดทีมแบบนี้ ไม่จำเป็นต้อง เวดป่า ตั้งแต่เริ่มเกมนะครับ เพราะ Arum เป็นแท็งค์ตัวหลัก ควรจะไปยืนเลน เก็บเลเวลมากกว่า ทีมนี้ จะเน้นที่ CC เป็นหลัก เพราะจะเห็นว่า ฮีโร่ทุกตัว มีสกิลประเภท CC ทั้งหมด ทั้ง CC ระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกล ถ้าเดินรวมกัน ไม่มีใครสู้ได้แน่นอนครับ ทั้งสตั้น สโลว์ โดนจับล็อค กระโดดใส่แล้วสโลว์เป็นพื้นที่ บอกได้คำเดียวว่า การจัดทีมแบบนี้ โคตรโหดครับ ดาเมจเหลือเฟือ และความแข็งแกร่ง ก็สุดๆ จริงๆ

การจัดทีมแบบที่ 4 เน้นความแข็งแกร่งแบบสุดๆ และดาเมจจากแนวหลัง

ตัวอย่างทีม 4 เน้นความแข็งแกร่งแบบสุดๆ และดาเมจจากแนวหลัง
ตัวอย่างทีม 4 เน้นความแข็งแกร่งแบบสุดๆ และดาเมจจากแนวหลัง

การจัดทีมแบบนี้ เน้นความแข็งแกร่งที่แผงหน้าเป็นหลัก มี Kil’Groth เป็นตัวทำลายป้อม แทนแครี่ ส่วน Murad และ The Flash คอยเติมดาเมจเป็นพื้นที่ จากแนวหลัง หรืออาจจะพูดได้ว่า ฮีโร่ทุกตัว โซนพื้นที่ให้กับ Murad ได้เข้ามาทำดาเมจสบายๆ นั่นเองครับ

ทีมนี้ ดาเมจจัดจ้าน และความแข็งแกร่ง ก็ไม่แพ้กันเลยนะครับ ตัวที่อ่อนแอที่สุดก็คือ Murad แต่ Murad เมื่อฟาร์มได้เต็มที่ ก็จะแข็งแกร่ง จนตายได้ยากมากๆ ทำให้ทีมนี้ เป็นอีกหนึ่งทีมที่น่ากลัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อย่าคิดว่า การจัดทีมแบบไม่มีแครี่อย่างนี้ จะทำให้ทีมดันป้อมได้ช้านะครับ เพราะ Kil’Groth ถือเป็นตัวดันป้อมที่น่ากลัวมากๆ มันสามารถเข้าไปไดร์ฟป้อมแบบหน้าด้านๆ ได้เลย โดยเปิดอัลติ และสกิลดูดเลือดไปพร้อมๆ กัน ทำให้ไม่มีใครไปหยุด หรือไปขัดมันจากการตีป้อมได้ ป้อมแตกเร็วกว่า แครี่ยืนยิงรัวๆ อีกนะครับ แล้วมากับทีมแบบนี้ ถ้าเข้าไปไดร์ฟป้อมด้วยกัน คงได้ทั้งป้อม และได้ฆ่าศัตรูไปด้วยแน่นอน

เห็นมั้ยครับว่า หลักการดูดาเมจ และความแข็งแกร่ง ของทีมนั้น ไม่ยากเลย เพียงแต่ตัวผู้เล่นเอง ต้องมีความเข้าใจ เกี่ยวกับฮีโร่ทุกตัวในเกม ROV เป็นอย่างดี ก็จะเข้าใจว่า ฮีโร่ตัวไหน มีจุดเด่นในเรื่องอะไร เราก็จับจุดเด่นนั้น มารวมกันกับเพื่อนร่วมทีมดู ว่ามันเข้ากันหรือไม่ เพื่อให้ดาเมจของทีม เพียงพอที่จะฆ่าศัตรูได้ง่ายๆ ความแข็งแกร่ง ก็เพียงพอที่จะปกป้องกันและกันได้ ตอนทีมไฟต์ และสกิลของฮีโร่แต่ละตัว ก็ต้องประสานสอดคล้อง สามารถทำสกิลต่อเนื่องกันได้ หรือ Chain ต่อๆ กัน ให้ศัตรูได้รับความเสียหายแบบต่อเนื่อง และเล่นได้ยากลำบากขึ้นนั่นเองครับ

ต่อไปเวลาจัดทีมลงแร็งค์ ก็เอาหลักการนี้ ที่ผมแนะนำ ไปใช้นะครับ แต่.. แน่นอนล่ะว่า จะเข้าใจอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะหลักการนี้ ทั้งทีมต้องเข้าใจตรงกัน ดังนั้น อย่าลืมแชร์เรื่องนี้ให้เพื่อนอ่านกันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจตรงกัน มองไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งถ้าทุกคนในทีมเข้าใจแบบนี้ การจัดทีมลงแข่ง ทั้งในแร็งค์ระดับ Gold – Platinum หรือ ระดับไดมอนขึ้นไป ที่มีระบบ Pick/Ban ก็จะไม่ใช่ปัญหาเลยครับ เพราะเราจะมองออกทันที ว่าทีมของฝ่ายตรงข้าม ขาดอะไร? ขาดดาเมจ? ขาดความแข็งแกร่ง? ซึ่งถ้าพบว่า ทีมของฝ่ายตรงข้าม ขาดความสมดุลในเรื่องอะไร ก็เอาเรื่องนั้นมาแก้ทาง หรือทำให้ได้เปรียบซะ แค่นั้นเองครับ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าฝ่ายตรงข้าม มีแท็งค์มาแค่ 1 ตัว ที่เหลือ หยิบแต่ตัวที่มีดาเมจรุนแรงมาทั้งหมด เราก็ต้องเลือกจัดทีมให้มีแต่ความแข็งแกร่งให้มากๆ เพื่อแก้ทางครับ รวมทั้ง ปรับรูปแบบการเล่น ให้เล่นแบบเดินแก๊งค์ รวมตัวกันตลอดเวลา 3 – 4 คนเสมอ เพื่อให้ตัวล้วง ไม่สามารถเข้ามาล้วงได้ เพราะฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม มีแต่ตัวบางๆ แต่ดาเมจหนัก ถ้าเห็นฝ่ายเรามากันเยอะๆ จะไม่กล้าเข้ามาแลกแน่นอนครับ เราก็แค่ดันป้อมไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็กดดันได้ตั้งแต่ต้นเกมแล้วครับ

แล้วถ้าฝ่ายตรงข้าม จัดทีมแบบแข็งแกร่งมาล่ะ แท็งค์ 3 ตัว แครี่ กับ เมจ อย่างละ 1 เราจะสู้อย่างไร?

จะเห็นว่า ทีมนี้ มีความแข็งแกร่ง มากกว่าดาเมจ คือ เอาดาเมจไปฝากไว้ที่ แครี่ฟาร์มป่า กับเมจ ทั้งหมด ดังนั้น เราต้องใช้ ระยะการโจมตี หรือ CC เข้าสู้ครับ คือ ใช้การจัดทีมแบบที่ 2 หรือ 3 สู้ก็ได้ครับ แก้ทางได้แน่นอน

ทุกอย่างในเกม ROV มันมีตัวแก้ทางทั้งหมดครับ หากผู้เล่นมีความเข้าใจ และประเมินดาเมจ กับความแข็งแกร่ง ของทีมตัวเอง และฝ่ายตรงข้ามเป็น ก็จะสามารถปรับรูปแบบการเล่น และกลยุทธ์ เพื่อชิงความได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกมได้แน่นอนครับ

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ

เรื่องก่อนหน้านี้เทคนิคการเลือกฮีโร่ Roaming ในเกม ROV ดูยังไงว่าฮีโร่ตัวไหนควรเอามาโรม
เรื่องถัดไปหลักการลดคูลดาวน์ เกม ROV ฮีโร่แต่ละตำแหน่งควรออกไอเท็มลดคูลดาวน์เท่าไหร่ดี