เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV ที่มีผลต่อการเล่นของคุณมาก จะเก่งหรือจะไก่ ก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ

รู้กันหรือไม่ครับ ว่าจริงๆ แล้ว การตั้งค่า สำหรับการเล่น ในเกม ROV นั้น มีผลต่อการเล่นมากแค่ไหน? มันมีผลขนาดที่ว่า ทำให้คุณแพ้ในจังหวะที่คุณคิดว่า จะชนะ หรือน่าจะฆ่าได้อยู่แล้ว หรือ จังหวะที่คุณโดดเข้าไปแล้ว ตั้งใจจะล้วงแครี่ แต่พอกดโจมตี มันดันพุ่งไปทุบแท็งค์ซะอย่างนั้น เรื่องพวกนี้ เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในจังหวะทีมไฟต์ ที่มีฝ่ายตรงข้ามเยอะ และเราก็โดดเข้าไปกลางวง เพื่อที่จะโจมตี แต่มันก็โจมตีผิดเป้าหมายเสมอ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าหากคุณไม่เข้าใจ และไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของ เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV ที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับฮีโร่ที่คุณเล่น

การตั้งค่าที่ว่านี้ เป็นการตั้งค่าของระบบที่อยู่ในเกม ROV ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณจะต้องใส่ใจ และคิดเอาไว้เสมอ ตั้งแต่เริ่มต้นเกมมา เพราะมันจะทำให้ฮีโร่ที่คุณกำลังเล่นอยู่ มันโจมตีได้ถูกเป้าหมาย หรือ โจมตีไปผิดเป้าหมายได้เลยทีเดียว ซึ่งถ้ามันโจมตีผิดเป้าหมาย นั่นก็แปลว่า คุณอาจจะโดนฆ่าตายได้ง่ายๆ และกลายเป็นตัวแจกของทีมไปเลยนะครับ โดยเฉพาะในจังหวะช่วงชุลมุนทีมไฟต์ ที่มีศัตรูอยู่รวมกันเยอะๆ ถ้าโจมตีผิดเป้าหมาย มีสิทธิ์ตายได้ง่ายๆ เลยนะครับ ที่สำคัญคือ คุณจะเจ็บใจมากๆ เพราะถ้าโจมตีไปที่เป้าหมายที่คุณคิด ป่านนี้ก็ชนะ หรือได้เปรียบไปแล้ว แต่นี่ มันได้ไปโจมตีตัวไหนก็ไม่รู้ คุณก็เลยเซ็งแบบสุดๆ ไปเลย ปัญหาเหล่านี้ จะไม่เกิดเลยครับ ถ้าคุณเข้าใจเรื่องของ เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV ที่เหมาะสมกับฮีโร่ที่คุณเล่น

เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV เรื่องเล็กๆ ที่คุณต้องรู้เพื่อความเทพ

ในส่วนของการตั้งค่าที่ว่านี้ จะอยู่ในส่วนของการ “ควบคุม” ครับ ซึ่งจะตั้งในเกมที่กำลังเล่นอยู่ หรือจะตั้งที่หน้าจอหลักของเกม ( หน้า Home ของเกม ROV ) ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยในส่วนที่เราจะมาอธิบายกันนี้ ก็คือ ประเด็นของการตั้งค่าในส่วนของการ “เล็งเป้าหมาย”

ในส่วนของการ “เล็งเป้าหมาย” ที่เราสามารถตั้งค่าได้ จะมีอยู่ 3 แบบ ซึ่งแต่ละแบบ จะมีความเหมาะสมกับฮีโร่ที่เราเล่นไม่เหมือนกันครับ โดยผมจะอธิบายทีละประเด็นเลยนะครับ ได้แก่

พลังชีวิตน้อยที่สุด

การตั้งค่าแบบนี้ จะทำให้ฮีโร่ของเรา เล็งเป้าหมายไปที่ ศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยที่สุดที่อยู่ในบริเวณนั้นเสมอ หากมีศัตรูอยู่หลายตัว มันจะเล็งไปโจมตี ศัตรูที่มีพลังชีวิตน้อยที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก

ฮีโร่ที่เหมาะสมกับการตั้งค่า การเล็งเป้าหมายแบบนี้ก็คือ แครี่ โดยเฉพาะ แครี่ที่ใช้การโจมตีจากระยะไกลเป็นหลัก เช่น Violet, Yorn, Lindis, The Joker, Tel’Annas แต่สำหรับแครี่ ที่ไม่เหมาะสมจะตั้งค่าการเล็งเป้าหมายแบบนี้ก็คือ Moren, Wisp, Fennik เพราะแครี่พวกนี้ ไม่ได้โจมตีไกลมาก และมี Mobility ต่ำ จึงควรตั้งค่าเป็นการเล็งเป้าหมาย “ใกล้ที่สุด” จึงจะเหมาะสมกว่า ทำให้เวลาโจมตีเป้าหมายแล้ว แครี่พวกนี้ จะอยู่หลังแท็งค์ของฝ่ายเดียวกันเสมอ ทำให้ปลอดภัย ไม่โดนเล่นงานจากฝ่ายตรงข้าม

การตั้งค่าแบบนี้ นอกจากแครี่แล้ว ยังสามารถให้พวกตัวล้วง หรือ สายลาส ( Last Shot ) เอามาใช้ได้อย่างดี เช่น Butterfly, Wukong โดยเฉพาะ Butterfly การตั้งค่าแบบนี้ จะเหมาะสมมากๆ เพราะมันต้องฆ่าให้ได้ครับ สกิลติดตัวถึงจะทำงาน และทำให้สามารถกดใช้ทุกสกิลได้ใหม่อีกครั้ง

พลังป้องกันต่ำสุด

การตั้งค่าแบบนี้ จะทำให้ฮีโร่ของเรา โจมตีใส่ศัตรูที่มีพลังป้องกันต่ำที่สุดเสมอ ซึ่งก็มักจะเป็น แครี่ และเมจของฝ่ายตรงข้าม เมื่ออธิบายแบบนี้ นั่นก็แปลว่า การตั้งค่าแบบนี้ มันจึงเหมาะกับฮีโร่ประเภทตัวล้วงแบบสุดๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Zuka, Zill, Wukong, Zanis, Zephys, Nakroth, Kriknak, Airi เพราะฮีโร่พวกนี้ มักจะโดดเข้าไปกลางวง ในตอนทีมไฟต์ แต่ในจังหวะเกือบสุดท้ายเสมอ ซึ่งเป้าหมายของการเข้าไปของฮีโร่พวกนี้ คือ การล้วงแนวหลัง หรือ ฆ่าพวกตัวบางๆ ก่อน ดังนั้น การตั้งค่าแบบนี้ จึงได้ผลดีมากที่สุด

ทำไมตัวล้วง จึงไม่ควรตั้งค่าเป็น “พลังชีวิตน้อยที่สุด”?

เหตุผลก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ จังหวะที่ตัวล้วงพวกนี้ จะโดดเข้าไป มันมักจะเป็นจังหวะเกือบสุดท้าย ซึ่งหลายๆ ครั้ง แท็งค์ หรือ ไฟต์เตอร์ของฝ่ายตรงข้าม อาจจะโดนฝ่ายเราเล่นงานซะเกือบใกล้ตายอยู่แล้ว หากเราตั้งค่าว่า ให้โจมตีศัตรูที่มี “พลังชีวิตน้อยที่สุด” ตอนที่โดดเข้าไปแล้ว กดโจมตี มันก็จะมาเล่นงาน พวกแท็งค์ หรือ ไฟต์เตอร์ที่มีเลือดน้อยๆ ก่อนทันที และตัวมันเองนั่นแหละ ที่จะกลายเป็นเป้าให้กับ แครี่ กับเมจของศัตรู และตัวล้วงพวกนี้ ตัวบางครับ โดนแครี่ กับเมจ ที่ดาเมจหนัก โจมตีแค่ไม่กี่ครั้ง ก็ตายได้แล้ว ดังนั้น ตัวล้วง จึงควรตั้งค่าเป็น เล็งเป้าหมาย ที่มีพลังป้องกันต่ำที่สุดเสมอครับ

ใกล้ที่สุด

การตั้งค่าแบบนี้ จะทำให้ฮีโร่ของเรา เล็งเป้าหมายที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดก่อนเสมอ โดยการตั้งค่าแบบนี้ จะเหมาะกับฮีโร่ที่ใช้การโจมตีระยะประชิด ไม่ว่าจะเป็น แครี่ (บางตัว), เมจ, แท็งค์, ไฟต์เตอร์ นิยมตั้งค่าแบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้ปลอดภัยที่สุด

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณเล่น Omen แล้วตั้งค่าว่า ให้โจมตีศัตรูที่มีพลังป้องกันต่ำที่สุด เวลาทีมไฟต์ บวกกัน แทนที่ Omen จะตีแท็งค์ มันก็จะวิ่งทะลุแนวหน้าแท็งค์ของเรา และฝ่ายตรงข้าม ไปตีพวกแครี่กับเมจ ซึ่งเราก็ไม่อยากให้มันไป ก็จะบังคับ แล้วก็กดโจมตี มันก็จะวิ่งๆ หันไปหันมา สุดท้าย ก็โดนยิงฟรีจนตาย เพราะเราตั้งค่าผิดนั่นเองครับ

แต่ถ้าเราตั้งค่าได้เหมาะสม และถูกต้องนั่นคือ ให้ Omen เล็งเป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนเสมอ มันก็จะเล็งพวกแท็งค์ หรือฮีโร่ตัวไหนก็ตาม ที่อยู่ใกล้มันก่อนเสมอ แบบนี้ มันก็ไม่ต้องวิ่งล้ำหน้า หรือล้ำแนวแท็งค์ของเราออกไป ก็จะปลอดภัยได้มากที่สุดนั่นเอง

เห็นมั้ยครับว่า นี่คือ เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV ที่มีผลต่อการเล่นของคุณเป็นอย่างมาก แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ มักจะมองข้าม และมักจะไม่เคยมาตั้งค่า หรือให้ความสำคัญกับตรงนี้เลย ผู้เล่นระดับโปร หรือคนที่เล่นเก่งๆ จะให้ความสำคัญกับการตั้งค่าในส่วนนี้เสมอ และจะเช็คทุกครั้ง ที่เริ่มเกมาทันที เพราะเค้าต้องเล่นฮีโร่หลายตัว หลายตำแหน่ง เปลี่ยนไปเสมอในแต่ละเกม ใช้ฮีโร่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก็ต้องคอยมาเช็คการตั้งค่าอยู่เสมอ ว่ามันเหมาะกับฮีโร่ที่กำลังเล่นอยู่หรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น ในเกมก่อนหน้านี้ เล่น Wukong การตั้งค่าก็จะเป็น เล็งเป้าหมายที่ “พลังป้องกันต่ำสุด” แต่พอเกมต่อมา เล่น Omen ก็ต้องปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของ การเล็งเป้าหมายเป็น “ใกล้ที่สุด” แทนครับ ซึ่งถ้าเราเช็คทุกครั้ง ตั้งแต่เริ่มเกมมา ก็จะทำให้การเล่นของเรา ไม่มีผิดพลาด โจมตีโดนเป้าหมายที่เราต้องการเสมอ โดยเฉพาะในจังหวะทีมไฟต์ ที่มีศัตรูเป็นเป้าหมายอยู่หลายๆ ตัว

อย่าลืมเอา เทคนิคการตั้งค่าเกม ROV ที่ผมแนะนำมานี้ ไปใช้กันด้วยนะครับ และอย่าลืม แชร์ให้เพื่อนๆ ที่เล่นเกม ROV ด้วยกัน ได้อ่านด้วยนะครับ จะได้เล่นเก่งขึ้นไปพร้อมๆ กัน

อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ และแสดงความเห็นกันได้ ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand กันได้นะครับ ในเพจ ROV Thailand จะมีบทความดีๆ สาระน่ารู้ และเคล็ดลับการเล่นเกม ROV พร้อมทั้งคลิปแนวทางการเล่น และจังหวะการเล่นของฮีโร่แต่ละตัว เอามาลงให้ศึกษากันด้วย แล้วพบกันที่เพจ ROV Thailand นะครับ