อย่างที่รู้ๆ กันว่า Gildur มันเป็นฮีโร่ตัวฟรี ที่เราไม่ต้องจ่ายเงิน ก็ได้มันมาเล่นฟรีๆ อยู่แล้ว เป็นฮีโร่ประเภทเมจแท็งค์ ที่คนส่วนใหญ่มักจะเมินกัน เพราะอาจจะมองว่า เล่นยาก ช้าทุกอย่าง เดินก็ช้า โจมตีก็ช้า ทำประโยชน์อะไรให้ทีมไม่ได้มากนัก แต่นั่นเป็นความเข้าใจแค่ผิวเผิน รู้หรือไม่ว่า ในยุคแรกๆ ของเกม ROV นั้น Gildur เคยเป็น God อยู่พักนึงนะครับ คือ สกิลแรงจัดๆ จนต้องหยิบมาป่า ทุบป้อมทีเดียวแตก ยิงสกิล 2 ใส่ฮีโร่ฝั่งตรงข้ามทีเดียวไส้แตก มันไม่ใช่ฮีโร่กระจอกๆ อย่างที่คิดนะครับ การหยิบ Gildur มาเล่นในตำแหน่งเมจของทีม อาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่การเล่น Gildur โรมมิ่ง ให้ทีม เป็นอะไรที่เด็ด และสามารถเล่นได้จริงตั้งแต่ Bronze จนถึง Conqueror ได้สบายๆ เลยนะครับ
Gildur โรมมิ่ง : หลักการและแนวทางการเล่น
ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่า Gildur เป็นหนึ่งในฮีโร่ไม่กี่ตัวในเกม ROV ที่มี CC ประเภทสตั้น อยู่ในทุกๆ สกิลของมัน ( ตัวอื่นๆ ในเกม ก็เช่น Ormarr, Omega ) ดังนั้น การหยิบ Gildur มาโรมให้กับทีม จึงไม่ใช่สิ่งที่ผิดหลักการ หรือ เป็นการเล่นที่แหวกแนว แต่มันเป็นสิ่งที่ทำได้จริงๆ และเหมาะสมกับทีมอีกด้วย เพียงแต่หลักการ หรือ แนวทางการเล่น Gildur โรมมิ่ง มันค่อนข้างที่จะแตกต่างจากการเล่นแท็งค์โรมมิ่งตัวอื่นๆ อยู่พอสมควร
โดยธรรมชาติของ Gildur ก็คือ ฮีโร่เลทเกม คือ มันจะเก่งในช่วง กลางเกม ถึง เลทเกม โดยเฉพาะเลทเกมนี่จะเก่งมากๆ เลย เป็นฮีโร่ที่ต้องพึ่งพาไอเท็มถึงจะเก่ง ดังนั้น ต้นเกม ถึงกลางเกม การเล่น Gildur ต้องระวัง และใช้สเต็ปอยู่พอสมควร ซึ่งตรงนี้ ทั้งคนที่เล่น Gildur และเพื่อนร่วมทีมต้องเข้าใจด้วย โดยถ้าจะให้ทีมมีความสมดุล เราก็ต้องจัดเมจประเภทต้นเกมเข้ามาเติมเต็มดาเมจตรงนี้ เช่น Raz จะช่วยทำให้ต้นเกม ฝั่งเราไม่เสียเปรียบ เพราะมี Raz เป็นเมจ และ Gildur โรมมิ่ง ดาเมจต้นเกมไม่ขาดแน่นอนครับ แต่ถ้าเราหยิบเมจประเภทเลทเกมมาเล่น เช่น Liliana แบบนี้ดาเมจต้นเกมจะขาดแน่นอนครับ ทำให้ทีมเรามีโอกาสแพ้ไฟต์ในช่วงต้นเกมสูงมากๆ เลยทีเดียว
หลักการเล่น Gildur ซัพพอร์ต หรือ โรมมิ่ง ให้กับทีมนั้น ง่ายมากๆ คือ
1. ใช้สกิลติดตัวสร้างโล่เพื่อป้องกันตัวเองเป็นหลัก
Gildur ไม่กลัวพวกแครี่ หรือ เมจต้นเกมที่เน้นการ Poke สกิลเพื่อทำดาเมจแต่อย่างใด เพราะต้นเกม ดาเมจยังไม่รุนแรงมาก รวมทั้งสกิลติดตัวของ Gildur ก็คือ ทุกครั้งที่ใช้การโจมตีพิเศษ (การโจมตีปกติครั้งที่ 4) หรือ หลังจากกดใช้สกิลอะไรไปก็ตาม มันจะสร้างโล่ขึ้นมาให้ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งตรงนี้แหละคือ จุดแข็งของ Gildur ในช่วงต้นเกม โล่พวกนี้จะดูดซับดาเมจจากการโจมตีต่างๆ ของฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้
ดังนั้น เวลาที่เราจะโดนโจมตี หรือ เดินไปไหนมาไหนแล้วเสี่ยงที่จะโดนโจมตี ก็ให้เตรียมกดใช้สกิลไว้เลย เช่น กดใช้สกิล 2 หรือ สกิล 1 แบบฟรีๆ หรือ ตีลม เพื่อสร้างโล่ดูดซับการโจมตีของฝั่งตรงข้าม ตรงนี้ต้องฝึกเล่นบ่อยๆ ก็จะชำนาญ และจะทำให้ Gildur ได้รับความเสียหายน้อยมากๆ และกลายเป็นตัวที่น่ารำคาญตัวหนึ่งของตัวทำดาเมจฝั่งตรงข้ามเลยครับ
ในช่วงเลทเกมที่ Gildur มีไอเท็มครบ ลดคูลดาวน์เต็มที่ และมีมานามากมาย จะทำให้ Gildur ใช้สกิล 1 และ 2 ต่อเนื่องกันได้เรื่อยๆ นั่นแปลว่า Gildur จะมีโล่จากสกิลติดตัวออกมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตัวมันเอง ได้รับความเสียหายน้อยลง และเสนอหน้าเข้าไปป่วนประมาทฝั่งตรงข้ามได้มากขึ้นอีกด้วยนะครับ ที่สำคัญถ้าออกไอเท็มตามสูตรที่อยู่ด้านล่างนี้ จะทำให้โล่ของ Gildur มันหนามากๆ เลยนะครับ รับดาเมจจากแครี่ได้เบาลงมากๆ เลยทีเดียว
2. คอยใช้สกิล 2 ตอดเลือดพวกตัวบางๆ ฝั่งตรงข้าม
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า เราควรใช้สกิล 2 ยิงใส่ฮีโร่ทุกตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะมันทำดาเมจได้ แถมยังสตั้นศัตรูได้อีก แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ไม่ครบถ้วนครับ ถ้าเราเล่น Gildur ดาเมจเวทของเราจะเบาอยู่แล้ว ถ้าไปยิงใส่แท็งค์มันจะไม่ค่อยเจ็บ การเล่น Gildur ในตำแหน่งโรมมิ่ง เราควรจะยิงสกิล 2 ใส่ฮีโร่ที่ยังไงซะมันก็จะไม่ออกไอเท็มกันเวทมาอยู่แล้ว เช่น แครี่ เมจ หรือ ฟาร์มป่า ตัวพวกนี้ต้นเกมถึงกลางเกม จะไม่ออกไอเท็มกันเวทอยู่แล้ว เต็มที่ก็แค่ รองเท้ากันเวท Gilded Greaves แค่นั้นเอง
เหตุผลหลักก็คือ ดาเมจเวทจากสกิล 2 มันจะส่งผลกับพวกเมจ แครี่ และแอสซาซิน เป็นอย่างมาก เราไม่จำเป็นต้องยิงทีเดียวให้มันเจ็บ แต่ถ้ายิงโดนหลายๆ ครั้ง จะทำให้แครี่ และเมจต้องเจ็บหนักจนต้องกลับบ้าน เป็นการกดดันเลนแบบง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเอาตัวเราเองเข้าไปเสี่ยง เข้าไปบวกให้ต้องเจ็บตัวอะไรเลย เพียงแต่ต้องฝึกการเล็งยิงสกิล 2 ให้แม่นๆ หน่อยก็เท่านั้นเอง
การเล่น Gildur ซัพพอร์ต ที่ถูกต้องก็คือ เล่นแบบใช้สกิล 2 ก่อกวน ยิงตอดไปเรื่อยๆ เน้นเป้าหมายพวกตัวบางๆ เช่น แครี่ และเมจ ก่อนเป็นอันดับแรก สกิล 1 เก็บไว้พุ่งหนี หรือ เก็บไว้พุ่งเข้าไปประชิดตัวศัตรูเพื่อทำจังหวะสตั้นให้เพื่อนได้ฆ่า หรือ พุ่งเข้าไปแล้วคอมโบด้วยอัลติเพื่อจับล็อคศัตรู ถ้าจังหวะยังไม่ได้ ก็เดินหามุมยิงสกิล 2 ตอดไปเรื่อยๆ อย่างที่บอก เน้นตอดใส่พวกตัวบางๆ ให้เจ็บหนักๆ ส่วนตัวโรมมิ่งฝั่งตรงข้าม อย่าไปสนใจมันครับ เราอย่าไปเสียสกิลฟรีๆ ให้กับพวกแท็งค์ มันเสียของไปเปล่าๆ ครับ
3. ใช้อัลติในจังหวะที่เหมาะสม
การใช้อัลติของ Gildur เราควรเลือกจังหวะการใช้ให้เหมาะสม ในไฟต์ใหญ่ๆ ก่อนจะใช้อัลติของ Gildur เราจะใช้หลักการเดียวกับการใช้อัลติของ Hayate เพราะอัลติของฮีโร่ทั้งสองตัวนี้ สามารถโดนขัด หรือ ยกเลิกได้ ด้วยสกิลที่มี CC ประเภท สตั้น ยก ผลัก ไถ แช่แข็ง ดังนั้น เราควรจะดูจังหวะที่ศัตรูใช้สกิลที่มี CC ประเภทนั้นไปหมดแล้วซะก่อน จึงค่อยพุ่งเข้าไปแล้วกดใช้อัลติ มันถึงจะได้ผลดีมากที่สุด
เวลาที่เล่น Gildur ต้องเล่นแบบใจเย็นๆ ครับ ตอนที่เพื่อนยังมาไม่พร้อม ก็ยิงสกิล 2 ตอดศัตรูจากระยะไกลไปเรื่อยๆ เน้นเป้าหมายด้านหลัง พวกตัวบางๆ ก่อนเสมอ เช่น แครี่ เมจ ทำให้พวกนั้นมันเจ็บมากที่สุด ถ้าแครี่ กับเมจ เจ็บหนักๆ ก็จะยืนยิงฟรีไม่ได้ต้องกลับบ้าน เป็นการหยุดเกมบุกของฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าเค้ายังฝืนบุกเข้ามา ก็จะแพ้ไฟต์เราทันที เพราะเมจกับแครี่ จะตายก่อน ทำให้แนวหน้าขาดคนยิงสนับสนุนนั่นเอง
Gildur ไม่ใช่ฮีโร่ที่กระจอกนะครับ เพราะสกิลของมันก็ถือว่า ดีไม่แพ้ Aleister และ Arum เลยทีเดียว คือ มันสามารถจับล็อคเป้าหมายได้ แต่ดีกว่าตรงที่มันสามารถจับล็อคเป้าหมายได้เป็นพื้นที่ ซึ่งแม้เป้าหมายจะมีรองเท้าต้านทานสถานะอย่าง Gilded Greaves ก็ยังขยับได้อย่างลำบากอยู่ดี ซึ่งตรงนี้แหละคือ ท่าไม้ตายสำคัญของ Gildur นั่นคือ เข้าไปกลางวง แล้วจับล็อคเป้าหมายทุกตัวให้เพื่อนเรารุมฆ่า
เป้าหมายสำคัญของ Gildur เวลาที่จะพุ่งเข้าไปแล้วกดใช้อัลติเพื่อจับล็อค ก็คือ พวกแครี่ และเมจ ที่เป็นตัวบางๆ เพราะแครี่ส่วนใหญ่จะใส่รองเท้า War Boots เป็นหลัก นั่นแปลว่า ถ้ามันโดนอัลติของ Gildur เข้าไป มันจะโดนแบบเต็มๆ คือ ขยับไม่ได้ยาวๆ เลยทีเดียวนั่นเองครับ แต่ถามว่า เวลาเข้าไฟต์ใหญ่ๆ จำเป็นต้องพุ่งทะลุไปแนวหลังเพื่อไปจับแครี่ฝั่งตรงข้ามเลยมั้ย? อันนี้ก็ต้องบอกว่า ไม่จำเป็นครับ ถึงเวลาเข้าไฟต์ใหญ่ๆ จับตัวไหนได้ ก็จับเลยครับ ถ้าเพื่อนเราฆ่าได้ ยังไงก็ทำให้ทีมเราได้เปรียบอยู่ดีครับ
นอกจากนี้ อัลติของ Gildur ยังสามารถใช้ร่วมกับ Flicker ได้อีกด้วยนะครับ นั่นคือ เราสามารถใช้ Flicker ย้ายตำแหน่งอัลติของ Gildur ได้นั่นเองครับ เป็นการทำให้เราสามารถย้ายตำแหน่งการใช้อัลติของ Gildur ในจังหวะที่เราพลาด คือ พุ่งเข้าไปกดใช้อัลติแล้ว ศัตรู Flicker หนี เราก็กด Flicker ย้ายอัลติตามไปล็อคได้นั่นเอง
Gildur ไม่กลัวพวกแครี่ฟาร์มป่านะครับ ต่อให้เป็น Thorne ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างที่บอก เราเน้นยิงใส่แครี่แถวหลังอยู่แล้ว ถ้า Thorne โดน Gildur ในช่วงเลทเกมยิงเข้าไป ด้วยเซ็ตไอเท็มตามที่แนะนำไว้ด้านล่างนี้ บอกเลยว่า เกินครึ่งหลอดนะครับ ตูมเดียวหายเกินครึ่งหลอด ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเล่น Thorne แล้วโดน Gildur ยิงใส่ทีนึงเกินครึ่งหลอด คุณจะทำยังไง บุกต่อ? หรือ ถอย? ใช่ครับ มันต้องถอยอยู่แล้ว เพราะถ้าโดนยิงอีกที คือ ตายแน่นอน แล้วจะอยู่ทำไมล่ะครับ นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดกับแครี่ และเมจฝั่งตรงข้าม เวลาโดนสกิล 2 ยิงเข้าไป
เราจะเล่น Gildur เหมือนแท็งค์ตัวอื่นๆ ไม่ได้ คือ จะพุ่งไปบวก จะเข้าไฟต์อย่างเดียว แต่เราต้องเล่นแบบใจเย็นๆ เน้นยิงตอดไปเรื่อยๆ ก่อน ตอดให้มันเจ็บ ตอนให้คนในทีมมันบางคนต้องกลับบ้าน พอมันมีจำนวนคนน้อยกว่า หรือเริ่มเจ็บหนัก เราค่อยเข้าไปบวก เข้าไปเปิดไฟต์ แบบนี้ถึงจะทำให้ทีมเราได้เปรียบ มันคือการใช้จุดเด่นในเรื่อง ดาเมจเวทจากระยะไกลของ Gildur ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ให้เจ็บ ยืนยิงไกลๆ ก็ทำดาเมจใส่ศัตรูได้แล้ว นี่คือความแสบของ Gildur นั่นเองครับ และถ้าศัตรูหัวร้อน ทนไม่ไหว รีบโถมเข้ามา ก็ต้องเจอกับ อัลติของ Gildur ที่จับล็อคอีก ตายยกตี้ได้ง่ายๆ เลยทีเดียวนะครับ มันจึงทำให้ศัตรูเล่นยากมากๆ ยืนห่างๆ ก็โดนยิงฟรี โถมเข้ามาก็โดนจับอีก ทำให้เล่นยาก และเสียสุขภาพจิตแบบสุดๆ
Gildur โรมมิ่ง : รูน ไอเท็ม และพลังแฝง
สำหรับรูนนั้น เราสามารถใช้รูนได้หลายแบบ จะใช้รูนตีเร็วก็ได้ นั่นคือ Desolate, Spirit, Stain หรือจะใช้รูนเมจมาตรฐาน ก็ได้เช่นกัน นั่นคือ Desolate, Protect, Stain จะใช้แบบไหนก็อยู่ที่ความชอบเลยครับ รูนตีเร็วก็เน้นการโจมตีปกติให้บ่อยๆ หน่อย จะได้ใช้การโจมตีแบบพิเศษ (การโจมตีปกติครั้งที่ 4) ได้บ่อยขึ้น โล่ก็ทำงานบ่อยขึ้น วิ่งเร็ว คล่องตัวมากขึ้น หรือจะใช้รูน Protect เน้นแข็งแกร่ง ทนทาน ก็ได้เช่นกัน ไม่มีปัญหา แต่ที่ไม่แนะนำก็คือ รูนแท็งค์ อันนี้มันจะหนาเกินไปหน่อยครับ มันทำให้ดาเมจของ Gildur ช่วงเลทเกม เบามากเกินไปนั่นเองครับ เล่น Gildur ดาเมจเวทเลทเกมมันต้องน่ากลัวครับ ไม่งั้นกดดันฝั่งตรงข้ามไม่ได้
ในส่วนของเซ็ตไอเท็ม ถ้ารู้สึกว่า ดาเมจของฝั่งตรงข้ามมันรุนแรงเกินไป สามารถปรับเปลี่ยนให้แตกต่างจากนี้ได้ โดยเอาไอเท็มเวทออกไป 2 ชิ้น ได้แก่ Arctic Orb กับ Boomstick แล้วเลือกไอเท็มป้องกันมาใส่แทน 2 ชิ้น ได้แก่ The Aegis และ Medallion of Troy แค่นั้นก็จะทำให้ Gildur ตายยากแบบสุดๆ แล้ว
สำหรับรองเท้าลดคูลดาวน์ เวลาเล่นจริงๆ ถ้าฝั่งตรงข้าม CC มันเยอะมาก ก็เปลี่ยนเป็น Gilded Greaves ได้นะครับ คือ ไม่ต้องออกไอเท็มตามนี้ทุกชิ้นก็ได้ เพราะทุกอย่างต้องไปปรับกันหน้างาน แก้ทางฮีโร่ฝั่งตรงข้าม และตามสถานการณ์ แต่หลักๆ ที่ควรจะมีไว้ก็คือ Hecate’s Diadem และ Staff of Nuul 2 ชิ้นนี้ยังไงก็ต้องมีครับ นอกนั้นปรับเปลี่ยนได้ตลอด เช่น Arctic Orb เปลี่ยนเป็น Berith’s Agony ก็ได้ เพื่อเน้นการทำให้แท็งค์เจ็บหนักๆ ปรับเปลี่ยนได้หมด แล้วแต่สถานการณ์เลยครับ
สำหรับพลังแฝง ที่ผมเลือกใช้ Minion Kill ไม่ใช่ว่าจะเอามาแย่งครีปจากเพื่อนนะครับ แต่เอาไว้เผื่อในกรณีที่ต้องไปรับเวฟครีปคนเดียว หรือ ช่วงกลางเกม ช่วยเพื่อนเคลียร์ครีปได้เร็วขึ้น และทำให้ Gildur รวยเร็วมากขึ้นด้วย มีประโยชน์มากๆ นะครับ
ถ้าสังเกตพลังแฝงที่เราหยิบมาใช้กับ Gildur ก็น่าจะเข้าใจแล้วนะครับว่า มันต้องสอดคล้องกับสเต็ปการเล่นที่แนะนำ นั่นคือ เล่นแบบเน้นชั้นเชิงในช่วงต้นเกม คือ หามุมยิง ยิงเสร็จแล้วก็รอเวลา เดินหามุมยิงต่อ แล้วก็ยิงอีก แบบนั้นจะทำให้พลังแฝง Forest Wanderer ทำงานเรื่อยๆ และพวกแครี่ หรือ เมจ จะเจ็บหนักมากๆ ครับ โดนเข้าไป 2-3 ทีนี้ กลับบ่อได้เลยนะ
เพิ่มเติมสักนิด สำหรับทางเลือกพลังแฝงอีกหนึ่งแบบที่นิยมกันก็คือ การใช้ Visceral Boost นั่นเองครับ ซึ่งจะทำให้การเล่น Gildur มันโหดมากขึ้นในช่วงต้นเกม ด้วยความที่มันมีเลเวล 2 ตั้งแต่เริ่มเกม ก็จะทำให้ Gildur มีความคล่องตัวมากขึ้นในเรื่องการเดินเกมนั่นเองครับ แต่จะเก่งในช่วงต้นเกมเท่านั้นนะครับ ช่วงกลางเกม ถึงเลทเกม ก็ต้องใช้เสต็ปตามที่แนะนำนี่แหละครับ ส่วนในระยะยาว หมายถึงเก่งตลอดทั้งเกม พลังแฝง Forest Wanderer ดีกว่าครับ มันขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการเล่นแผนแบบไหน ถ้าทีมเรามีตัวต้นเกม อยากเวดป่า อยากบุก อยากทำดาเมจแรงๆ ตั้งแต่ต้นเกม ก็ต้องใช้ Visceral Boost แต่ถ้าอยากยิงแรงมากๆ ในช่วงเลทเกม ก็ต้อง Forest Wanderer ตามนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณหยิบ Gildur โรมมิ่ง มาเล่นบ่อยๆ สเต็ปของคุณจะดี และคุณจะไม่จำเป็นต้องออกไอเท็มป้องกันเลย เพราะสกิลติดตัวของ Gildur มันจะสร้างโล่ป้องกันมาให้เรื่อยๆ อยู่แล้ว คุณก็จะไปเน้นที่ไอเท็มเพิ่มพลังเวท ทำให้สกิล 2 ของ Gildur มันยิงโคตรแรง ชนิดที่ว่า เมจ หรือ แครี่ โดนเข้าไปทีนึง ต้องเจ็บหนัก จนต้องกลับบ้านเลยทีเดียว
Gildur โรมมิ่ง เป็นฮีโร่ที่มีรูปแบบการใช้สกิลที่ง่ายมากๆ ไม่ซับซ้อน แต่เวลาเล่นนั้น จะเล่นออกมาได้โหดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เล่นแล้วล่ะครับ เรียกได้ว่า มันเป็นฮีโร่ปราบเซียน คือ ตัวมันเองไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย สกิลต่างๆ และดาเมจ อยู่ในระดับที่กลางๆ แต่จะเล่นออกมาแล้ว เก่งหรือไม่ อยู่ที่ฝีมือ และเสต็ปของตัวคนเล่นแล้วล่ะครับ เรียกได้ว่า เป็นฮีโร่ที่ต้องใช้ทักษะความรู้ ความเข้าใจในเกม ROV ของผู้เล่นมากทีเดียว เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่ต้องใช้ฝีมือเล่นมากกว่าความเก่งของตัวฮีโร่
การที่ผมบอกว่า เราสามารถหยิบ Gildur มาเล่นในแร็งค์ได้ตั้งแต่ Bronze ถึง Conqueror ไม่ได้เกินความจริงแต่อย่างใดนะครับ มันทำได้จริงๆ อยู่ที่ทักษะการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนด้วย มันมีทุกอย่างครบถ้วนที่โรมมิ่งจำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะเป็น ดาเมจ, CC, ความแข็งแกร่ง, Mobility มันมีหมด ดังนั้นอยู่ที่คนเล่นแล้วล่ะครับว่า จะประยุกต์ หรือ ดึงเอาความเก่งของ Gildur ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญ คุณเข้าใจบทบาท และหน้าที่ของการเล่นในตำแหน่ง โรมมิ่ง/ซัพพอร์ต ดีแค่ไหนอีกด้วย บอกเลยว่า Gildur ไม่ได้กระจอก มันเป็นตัวแก้ทางฮีโร่ที่เก่งๆ โกงๆ หลายตัวใน META นี้ได้สบายๆ เลยนะครับ เก่งแค่ไหน เกรียนแค่ไหน Gildur ปราบได้หมดครับ
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มต่างๆ ในเกม ROV ได้ง่ายๆ ภายในเว็บนี้ ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา ที่ปุ่มแว่นขยายมุมขวาบน ใส่ชื่อ ฮีโร่ หรือ ไอเท็ม เป็นภาษาอังกฤษเหมือนในเกม ROV ได้เลย แล้วมันจะแสดงผลทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ฮีโร่ หรือ ไอเท็มนั้นๆ ที่คุณต้องการรู้ออกมาเองครับ
อ่านจบแล้วก็อย่าลืมเข้าไปพูดคุย คอมเม้นท์ แสดงความเห็น และดูคลิปแนวทางการเล่นอีโร่ ROV ทุกตัว ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ ROV Thailand Return กันด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ที่เขียนมานั้น เวลาเอาไปเล่นจริงๆ มันต้องนำไปใช้อย่างไร แล้วเมื่อคุณเข้าใจ ฝีมือในการเล่นของคุณก็จะดีขึ้นแน่นอนครับ
